Thursday, October 31, 2013

ตระเวนกินในหาดใหญ่ บ้านเก่า บ้านเกิด (2)

ในตอนแรกที่จะทำรีวิวร้านอาหารในหาดใหญ่ตั้งใจจะทำให้ครบทุกๆร้านที่ไปกิน แต่พอเอาเข้าจริงกว่าจะได้กินก็หิวมากเลยผิดพลาดทำให้ลืมถ่ายรูปไปหลายร้าน บางร้านจึงต้องหารูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต

วันนี้เป็นวันที่สองที่กลับไปอยู่บ้าน มื้อเช้าคุณน้องสาวอยากทานติ่มซำ เพราะเมื่อวานไม่ได้ไปร่วมโต๊ะที่โชคดีแต่เตี๊ยม แต่เพราะเราไปทานกับคุณภรรยามาเรียบร้อย วันนี้เลยขอย้ายร้านไปอีกร้านที่มีชื่อพอๆกันคือร้านกุ๊กชัย

กุ๊กชัย

กุ๊กชัยเป็นร้านติ่มซำชื่อดังอีกร้านหนึ่งในเมืองหาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ถ.ทุ่งเสา มีคนมาทานแน่นเกือบทุกวันแต่จะไม่เท่ากับร้านโชคดีแต่เตี๊ยม ที่นั่งจะไม่ต้องรอนานเท่าไหร่ หาง่ายกว่าร้านโชคดี
ร้านกุ๊กชัยจะมีเมนูชื่อดังประจำร้านที่ถ้ามาหลายๆคนจะต้องสั่งเกือบทุกโต๊ะ คือ เมนูราดหน้าหัวปลา โดยทางร้านจะนำเส้นใหญ่มาเรียงกันเป็นแผ่นแล้วนำไปทอดจนกรอบเป็นแพ ทานคู่กับหัวปลากระพงตัวใหญ่นำไปทอดก่อนแล้วค่อยนำไปทำเป็นเครื่องราดหน้า ผัดเครื่องประกอบด้วยกระเทียม ต้นหอม ขึ่นฉ่าย ขิง เห็ดหอม กุ้งแห้ง หมูสับ แล้วค่อยนำไปราดบนปลาที่ทอดมาเรียบร้อยแล้ว แต่เมนูนี้จะมีขนาดเดียวซึ่งจะเสิร์ฟบนจานเปลสำหรับทานประมาณ 5-6 คน วันนี้เลยไม่ได้สั่ง
รูปโดยคุณ Winddy Bm จาก Wongnai.com

เมนูติ่มซำที่นี่จะรสชาติไม่เหมือนกับโชคดี เนื้อที่นี่จะออกรสชาติของหมูมากกว่าส่วนกุ้งจะใช้ทั้งกุ้งสับและกุ้งเป็นตัว เวลาเคี้ยวเนื้อจะสู้ฟันมากกว่าเนื้อกุ้งจะชิ้นใหญ่กว่าไม่เนียนมากยกเว้นบางเมนูที่จะเปลี่ยนไปใช้เนื้อกุ้งผสมกับมันหมูไปเลย เช่น เมนูติ่มซำสาหร่าย ติดที่รสชาติจะออกเป็นหมูสับแต่ Texture ไม่เนียน แต่แป้งที่ใช้ห่อติ่มซำจะค่อนข้างบาง แม้จะไม่ได้บางเฉียบเท่าในโรงแรมแต่ก็พอใช้ได้เลยทีเดียว

เมนูปลาน้ำแดงรสชาติจะเข้มข้นหน่อย ออกจะเค็มไปหน่อย แต่ปลาที่ใช้จะเป็นส่วนหัวปลารสชาติอร่อยแต่ไม่ค่อยมีเนื้อ คนที่ชอบแทะน่าจะชอบ
ส่วนติ่มซำเมนูอื่นๆรสชาติค่อนข้างดี เนื้อสัมผัสไม่เหนียวหรือเละเกินไป และรสชาติของติ่มซำร้านนี้จะออกรสจัดมากกว่าโชคดี หลายเมนูที่จะออกเค็มหน่อย
น้ำจิ้มของร้านนี้จะรสชาติออกหวานไม่ค่อยมีรสเปรี้ยวหรือเผ็ดเท่าไหร่นัก แต่ก็ตัดกับรสเค็มของอาหารได้ดีพอสมควร

เมนูต่อมาคือบะกุ๊ดแต๋ จะต่างออกไปโดยรสชาติของบะกุ๊ดแต๋ของที่นี่จะออกหวาน ไม่ใช่เค็ม แต่จะมีกลิ่นของเครื่องพะโล้ชัดเจนมากกว่า เครื่องบะกุ๊ดแต๋ก็จะค่อนข้างนิ่มเหมือนกัน
โดยสรุปร้านกุ๊กชัย เนื้อที่ใช้ในติ่มซำฃองร้านนี้จะเน้นไปที่เนื้อหมูและมันหมู ผสมด้วยกุ้งตัวเล็กๆ มีรสชาติชัดเจนและมีกลิ่นของน้ำมันงา มีเนื้อสัมผัสที่สู้ฟัน รสชาติออกจะเข้มข้นหน่อยตัดกับน้ำจิ้มที่ออกรสหวานนำเหมือนกับบะกุ๊ดแต๋ที่จะออกหวานและมีกลิ่นของเครื่องสมุนไพรค่อนข้างชัดเจน
เดิมหลังจากมื้อเช้าตั้งใจจะไปนั่งจิบกาแฟ แกล้มขนมเค้กกับคุณภรรยาซะหน่อย แต่ด้วยปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปจึงไม่สามารถใส่อะไรเพิ่มเข้าไปได้แล้ว เลยรอให้ถึงมื้อเที่ยงซึ่งจะไปเยี่ยมก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำร้านประจำซะหน่อย กินมาตั้งแต่รุ่นแม่จนถึงรุ่นลูกละ
ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำเจ๊โหด-เจ๊ติ๋ว-พี่หนุ่ย
ขอเล่าประวัติของร้านนี้หน่อยเพราะมีความทรงจำดั้งเดิมมานานตั้งแต่สมัยมัธยม เดิมทีร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเล็กๆที่เปิดอยู่ใต้หอพักในหลืบแถวๆอาบอบนวดเจ้าพระยาเก่าซึ่งไม่รู้ว่าเปิดมานานเท่าไหร่แล้ว แต่ตอนที่เริ่มไปทานครั้งแรกเหมือนจะจำได้ว่าคุณแม่เป็นคนเริ่มพาไปตั้งแต่สมัยม.1 คนขายเดิมชื่อเจ๊ติ๋ว (เป็นชื่อที่พึ่งรู้หลังจากแกย้ายร้านแล้วทำป้ายร้านใหม่ ก่อนหน้านี้ทุกคนจะเรียกร้านนี้ว่า ก๋วยเตี๋ยวเจ๊โหด เพราะเจ๊แกโหดมาก ใครอย่าไปเร่งแกนะ แกด่ากระจาย) ซึ่งจะไปเป็นประจำแทบทุกวันหลังซ้อมบาสเสร็จโดยเมนูที่สั่งจะเหมือนเดิมทุกวันคือ บะหมี่ต้มยำแห้ง 2 ก้อน และไปเวลาเดิมๆทุกครั้งคือประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ถ้าไปเร็วกว่านั้นอาจจะต้องรอนานมาก (ประมาณครึ่งชั่วโมงหรืออาจจะถึงชั่วโมงครึ่งเลย มีครั้งนึงเคยไปต้องรอเกือบ 2 ชั่วโมง) ลูกค้าแกก็เยอะมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว เคยทำสถิติทานเองคนเดียว 3 ชาม (ชามละ 2 ก้อน) จนชามสุดท้ายเจ๊ติ๋วแกก็เป็นห่วงกลัวว่าเราจะอิ่มจนเกินไป แถมเหลือบะหมี่อยู่อีกก้อนนึง แกเลยแถมชามสุดท้ายเป็น 3 ก้อน หลังจากเลิกเล่นบาสทีมโรงเรียนตอน ม.ปลาย ก็ไปทานไม่บ่อยเท่าเดิมจนแกย้ายร้านไปแหละ หลังจากแกย้ายร้านไปแล้วก็เหมือนจะไม่ต้องรอนานเท่าเดิมอาจเป็นเพราะมีคนช่วยมากขึ้น จนน้ำท่วมเมื่อ 4-5 ปีก่อน ก็ได้ยินว่าแกก็เลิกทำแล้วย้ายกลับบ้านปล่อยให้ลูกสาวแก (พี่หนุ่ย) เป็นคนทำต่อ ก็เลยกลายมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เจ๊โหด-เจ๊ติ๋ว-พี่หนุ่ย ในความทรงจำร้านนี้
ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำร้านนี้จะเป็นหมูต้มยำใส่เครื่องในหมูที่ลวกมาอย่างดีไม่มีกลิ่นเหม็นเลยแม้แต่นิดเดียว Texture ของเครื่องในกำลังดี กรอบ ไม่เละ เคี้ยวแล้วสู้ฟัน ส่วนหมูสับก็เป็นหมูปรุงรสที่หมักทิ้งไว้เมื่อผ่านขั้นตอนการทำทำให้เนื้อหมูสับนุ่ม ไม่กระด้างเลยซักนิด ส่วนหมูชิ้นเมื่อก่อนเจ๊ติ๋วจะใช้เนื้อติดกระดูกอ่อนซึ่งน่าจะเป็นเนื้อแถวๆซี่โครงทำให้เนื้อนุ่มกว่าปัจจุบันที่ใช้เนื้อหมูส่วนอื่นมาทำแล้วแต่ความกระด้างของเนื้อก็เกิดจากการเปลี่ยนส่วนของหมูมากกว่าไม่ใช่มาจากขั้นตอนการทำร่วมกับมีการหมักมาแล้วเนื้อหมูจึงยังไม่เหนียวมากนัก น้ำซุปรสชาติกำลังดี ไม่จืด ไม่เค็ม ผักที่ใส่ในก๋วยเตี๋ยวทุกวันนี้จะใช้บล็อคโคลี่ลวก แต่คิดว่าลวกนานไปนิดทำให้ความกรอบของบล็อคโคลี่ไม่ค่อยเหลือเท่าไหร่ และที่ร้านจะแยกถั่วงอกสดมาให้เป็นถ้วยต่างหาก แต่ถ้าใครชอบแบบลวกก็สามารถขอให้พี่หนุ่ยลวกให้ได้
ภาพโดยคุณ เคราย้อม จาก pantip.com
แต่ร้านนี้หากสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งเค้าจะแยกเส้นออกมาเป็นอีกถ้วยต่างหาก ส่วนเนื้อหมู ผักและน้ำซุปจะอยู่รวมกันเป็นอีกถ้วยหนึ่ง ซึ่งเมนูที่สั่งเป็นประจำมามากกว่า 10 ปีก็คือ บะหมี่ต้มยำแห้ง 2 ก้อน บะหมี่ลวกนานไปนิดทำให้เส้นเละไปหน่อย เพราะเราจะชอบเส้นที่กรอบเด้งมากกว่าแต่ด้วยความที่รสชาติอย่างอื่นอร่อยเลยยังมาอุดหนุนเป็นประจำ และถ้าใครสั่งพิเศษเพิ่มเส้นที่ร้านจะไม่คิดเงินเพิ่ม(แต่ปริมาณก็เยอะเอาเรื่องอยู่)

โดยสรุปก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำพี่หนุ่ยใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ขั้นตอนการเตรียมส่วนประกอบที่เหมาะสมทำให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสของเนื้อหมูและเครื่องในดีเยี่ยม น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมซดจนหมดชามได้สบายกับปริมาณที่เยอะมากพอที่จะทานคนเดียวอิ่มพอดี ติดที่ความสุกของเส้นบะหมี่และผักบล็อคโคลี่ที่มากไปนิดทำให้เนื้อสัมผัสไม่ดีเท่าที่ควร แต่โดยรวมอยู่ในคุณภาพเยี่ยมเลยทีเดียว


No comments:

Post a Comment